เลือก Server อย่างไรให้คุ้มค่ากับการลงทุน หัวข้อนี้คิดจะทำมาหลายครั้งแล้ว พอดีพอที่จะมีเวลาเขียนบทความอยู่เลยได้ลงมือเขียนซะที หลังจากที่เจอปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากการ Access ข้อมูลในปริมาณมากๆ อย่างเช่น ข้อมูลปริมาณมากกว่า 100,000 Record จึงได้มองเห็นว่าการที่จะเลือก Server ที่จะใช้ในการเก็บข้อมูลนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการ Access ข้อมูลโดยความเห็นส่วนตัวแล้วอาจจะแบ่งตามลักษณะการใช้งานคือ
1.Server สำหรับธุรกิจขนาดเล็กซึ่งรองรับปริมาณข้อมูลที่ไม่มากนัก อาจจะมี Workstation ประมาณ 3-5 ตัวต่อเชื่อมกันอยู่ สเปคของ Server ที่ใช้ก็จะไม่สูงมากนักทั้งนี้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนสเปคที่ใช้น่าจะเป็นดังนี้ครับ
- CPU Intel Pentium 4 2.8 GHz ขึ้นไป
- Memory 1024 Mbytes - 4096 Mbytes
- Harddisk 120 GBytes 5400 รอบ หรือ 7200 รอบ
- Main Board Intel , AsusTech , Gigabyte หรือ DFI
- VgaCard VGA Color AGP Slot RAM 8 MB
- Monitor 14 " - 17"
- Lancard 10/100 Mbps
จากสเปคจะเห็นว่าไม่ได้เลือกสเปคที่สูงมากนักทั้งนี้จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเครื่อง Server ได้แต่ปริมาณข้อมูลที่ต้องใช้ควรจะไม่มากจนเกินไปนัก อย่างเช่น ต่อปี ไม่เกิน 100,000 Record เป็นต้น
2.Server สำหรับธุรกิจขนาดกลาง ถึง ใหญ่ซึ่งรองรับปริมาณข้อมูลที่มีมาก อาจจะมี Workstation ประมาณ 10-30 ตัวต่อเชื่อมกันอยู่ สเปคของ Server ที่ใช้ก็จะสูงพอสมควรมากนักทั้งนี้เพื่อรองรับการ Access ข้อมูลที่มีปริมาณมาก สเปคที่ใช้น่าจะเป็นดังนี้ครับ
- CPU Dual* Intel Xeon Processor 2 GHz ขึ้นไป
- Memory 512 Mbytes - 1024 Mbytes
- Harddisk SCSI 120 GBytes 5400 รอบ หรือ 7200 รอบ
- Main Board Support Dual Processor
- VgaCard VGA Color AGP Slot RAM 8 MB
- Monitor 14 " - 17"
- Lancard 10/100 Mbps
* Dual Processor = ใช้ CPU สองตัว
จากสเปคจะเห็นว่าเราควรจะใช้เครื่องที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างจะสูง ในระยะเริ่มแรกอาจจะดูไม่คุ้ม แต่ในระยะยาวหากพูดถึงการ Upgrade ก็แทบจะไม่ต้อง Upgrade กันอีก ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระยะยาวจะมีความคุ้มค่ามากกว่า และยังสามารถรองรับปริมาณข้อมูลมากกว่า 300,000 Record ต่อปี
นอกจากการเลือก Server ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับงานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงระบบการส่งผ่านข้อมูลหรือ Network อีกด้วยมันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยหากคุณมี Server ที่ทำงานได้เร็วแต่ขาด Network ที่สามารถทำงานได้เร็วด้วย ซึ่งปัจจุบัน ระบบ Network ที่รองรับความเร็วขนาด 100 Mbps ก็ได้เกิดขึ้นแล้วและราคาก็ไม่แพงจนเกินไปก็น่าที่จะเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาด้วย